การบริการให้คนพิการ และผู้ดูแลคนพิการกู้ยืมเงินเพื่อเป็นทุนประกอบอาชีพหรือขยายกิจการ รายละไม่เกิน 40,000 บาท รายกลุ่ม กลุ่มละไม่เกิน 1 ล้านบาท ผ่อนชำระภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี โดยไม่คิดดอกเบี้ย
การกู้ยืมเงินรายบุคคล
1.มีบัตรประจำตัวคนพิการ
2.มีความจำเป็นในการขอรับการสนับสนุนเงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพในท้องที่ที่ยื่นคำขอ
3.มีความสามารถในการประกอบอาชีพในเรื่องที่ขอรับการสนับสนุน
4.บรรลุนิติภาวะ
5.มีชื่อในทะเบียนบ้านหรือถิ่นที่อยู่ถาวรในท้องที่ที่ยื่นคำขอกู้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวัน
6.ไม่มีประวัติเสียหายในการกู้ยืมเงินจากกองทุน เว้นแต่ได้ดำเนินการแก้ไขมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
7.กรณีมีหนี้สินอยู่กับกองทุนต้องได้ชำระหนี้มาแล้วไม่น้อยกว่าร้อยละหกสิบของวงเงินกู้ยืมทั้งหมดและเมื่อได้การอนุมัติแล้วต้องชำระหนี้สินที่มีอยู่เดิมทั้งหมด
8.ความสามารถชำระคืนเงินกู้ยืมได้และมีบุคคลที่น่าเชื่อถือได้เป็นผู้ค้ำประกันผู้ดูแลคนพิการกู้ยืมเงินกองทุนฯ
คุณสมบัติของผู้ดูแลคนพิการ กู้ยืมเงินกองทุนฯ
1. มีความจำเป็นในการขอรับการสนับสนุนเงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพในท้องที่ที่ยื่นคำขอ
2.มีความสามารถในการประกอบอาชีพในเรื่องที่ขอรับการสนับสนุน
3.บรรลุนิติภาวะ
4.มีชื่อในทะเบียนบ้านหรือถิ่นที่อยู่ถาวรในท้องที่ที่ยื่นคำขอกู้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวัน
5.ไม่มีประวัติเสียหายในการกู้ยืมเงินจากกองทุน เว้นแต่ได้ดำเนินการแก้ไขมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
6.กรณีมีหนี้สินอยู่กับกองทุนต้องได้ชำระหนี้มาแล้วไม่น้อยกว่าร้อยละหกสิบของวงเงินกู้ยืมทั้งหมดและเมื่อได้การอนุมัติแล้วต้องชำระหนี้สินที่มีอยู่เดิมทั้งหมด
7.ความสามารถชำระคืนเงินกู้ยืมได้และมีบุคคลที่น่าเชื่อถือได้เป็นผู้ค้ำประกัน
8.ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
9.ได้รับการรับรองเป็นหนังสือจากผู้แทนองค์กรด้านคนพิการ กำนันผู้ใหญ่บ้านผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผู้นั้นมีภูมิลำเนา ข้าราชการระดับ ๓ หรือเทียบเท่าขึ้นไป หรือมีหลักฐานเชื่อได้ว่าเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการซึ่งมิได้มีหนี้สินจากกองทุน
เอกสารประกอบการยื่นกู้ยืมเงินกองทุนฯ
1.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ
2.สำเนาทะเบียนบ้าน
3.แผนผังที่อยู่อาศัย แผนผังสถานที่ประกอบอาชีพ
4.สำเนาหนังสือสัญญาเช่าบ้าน (ในกรณีที่ผู้กู้เช่าบ้านอยู่)
5.สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ค้ำประกัน
6.หนังสือรับรองเงินเดือนของผู้ค้ำประกัน (เว้นแต่เป็นเกษตรกร)
7.หนังสือรับรองว่าเป็นผู้อุปการะคนพิการ(ในกรณีเป็นผู้ดูแลคนพิการ)
8.ประมาณการค่าใช้จ่ายในการประกอบอาชีพที่ขอกู้
9.ใบรับรองแพทย์ (กรณีคนพิการมีสภาพความพิการร้ายแรง และผู้ดูแลคนพิการเป็นผู้ขอกู้แทนคนพิการ)
10.รูปถ่ายเต็มตัวผู้กู้
11.สำเนาสมุดเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทยเท่านั้น
การกู้ยืมเงินรายกลุ่ม
1. มีบัตรประจำตัวคนพิการ
2.มีความจำเป็นในการขอรับการสนับสนุนเงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพในท้องที่ที่ยื่นคำขอ
3.มีความสามารถในการประกอบอาชีพในเรื่องที่ขอรับการสนับสนุน
4.บรรลุนิติภาวะ
5.มีชื่อในทะเบียนบ้านหรือถิ่นที่อยู่ถาวรในท้องที่ที่ยื่นคำขอกู้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวัน
6.ไม่มีประวัติเสียหายในการกู้ยืมเงินจากกองทุน เว้นแต่ได้ดำเนินการแก้ไขมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
7.กรณีมีหนี้สินอยู่กับกองทุนต้องได้ชำระหนี้มาแล้วไม่น้อยกว่าร้อยละหกสิบของวงเงินกู้ยืมทั้งหมดและเมื่อได้การอนุมัติแล้วต้องชำระหนี้สินที่มีอยู่เดิมทั้งหมด
8.ความสามารถชำระคืนเงินกู้ยืมได้และมีบุคคลที่น่าเชื่อถือได้เป็นผู้ค้ำประกัน
9.เป็นกลุ่มคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการที่ที่รวมตัวกันโดยมีผลประโยชน์และวัตถุประสงค์ร่วมกันเพื่อช่วยเหลือหรือสนับสนุนกัน หรือทำกิจกรรมอันชอบด้วยกฎหมายและศีลธรรมร่วมกัน หรือดำเนินการอื่นอันเป็นประโยชน์ร่วมกันของสมาชิก มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องและมีระบบบริหารจัดการและการแสดงเจตนาแทนกลุ่มได้ ทั้งนี้ ต้องมีสมาชิกกลุ่มไม่น้อยกว่า สองคน
10.มีหลักฐานจากสถาบันการเงินเกี่ยวกับการออมเงินของกลุ่มอย่างสม่ำเสมอมาแล้วไม่น้อยกว่าหกเดือน
11.ดำเนินกิจการของกลุ่มในท้องที่จังหวัดที่ยื่นคำขอต่อเนื่องจนถึงวันยื่นคำขอแล้วไม่น้อยกว่าหกเดือน
12.ได้รับการรับรองเป็นหนังสือรับรองจากองค์กรด้านคนพิการที่เป็นนิติบุคคลหรือหน่วยงานภาครัฐว่าเป็นกลุ่มที่มีผลงานน่าเชื่อถือจริง
13.มีแผนงานหรือโครงการของกลุ่มที่จะดำเนินการต่อไปอย่างชัดเจน
คุณสมบัติกลุ่มผู้ดูแลคนพิการกู้ยืมเงินกองทุนฯ
1.มีความจำเป็นในการขอรับการสนับสนุนเงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพในท้องที่ที่ยื่นคำขอ
2.มีความสามารถในการประกอบอาชีพในเรื่องที่ขอรับการสนับสนุน
3.บรรลุนิติภาวะ
4.มีชื่อในทะเบียนบ้านหรือถิ่นที่อยู่ถาวรในท้องที่ที่ยื่นคำขอกู้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวัน
5.ไม่มีประวัติเสียหายในการกู้ยืมเงินจากกองทุน เว้นแต่ได้ดำเนินการแก้ไขมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
6.กรณีมีหนี้สินอยู่กับกองทุนต้องได้ชำระหนี้มาแล้วไม่น้อยกว่าร้อยละหกสิบของวงเงินกู้ยืมทั้งหมดและเมื่อได้การอนุมัติแล้วต้องชำระหนี้สินที่มีอยู่เดิมทั้งหมด
7.ความสามารถชำระคืนเงินกู้ยืมได้และมีบุคคลที่น่าเชื่อถือได้เป็นผู้ค้ำประกัน
8.ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
9.ได้รับการรับรองเป็นหนังสือจากผู้แทนองค์กรด้านคนพิการ กำนันผู้ใหญ่บ้านผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผู้นั้นมีภูมิลำเนา ข้าราชการระดับ ๓ หรือเทียบเท่าขึ้นไป หรือมีหลักฐานเชื่อได้ว่าเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการซึ่งมิได้มีหนี้สินจากกองทุน
10.เป็นกลุ่มคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการที่ที่รวมตัวกันโดยมีผลประโยชน์และวัตถุประสงค์ร่วมกันเพื่อช่วยเหลือหรือสนับสนุนกัน หรือทำกิจกรรมอันชอบด้วยกฎหมายและศีลธรรมร่วมกัน หรือดำเนินการอื่นอันเป็นประโยชน์ร่วมกันของสมาชิก มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องและมีระบบบริหารจัดการและการแสดงเจตนาแทนกลุ่มได้ ทั้งนี้ ต้องมีสมาชิกกลุ่มไม่น้อยกว่าสองคน
11.มีหลักฐานจากสถาบันการเงินเกี่ยวกับการออมเงินของกลุ่มอย่างสม่ำเสมอมาแล้วไม่น้อยกว่าหกเดือน
12.ดำเนินกิจการของกลุ่มในท้องที่จังหวัดที่ยื่นคำขอต่อเนื่องจนถึงวันยื่นคำขอแล้วไม่น้อยกว่าหกเดือน
13.ได้รับการรับรองเป็นหนังสือรับรองจากองค์กรด้านคนพิการที่เป็นนิติบุคคลหรือหน่วยงานภาครัฐว่าเป็นกลุ่มที่มีผลงานน่าเชื่อถือจริง
14.มีแผนงานหรือโครงการของกลุ่มที่จะดำเนินการต่อไปอย่างชัดเจน
เอกสารประกอบการยื่นกู้ยืมเงินกองทุนฯ
1.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวคนพิการ
2.สำเนาทะเบียนบ้าน
3.แผนผังที่อยู่อาศัยของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน แผนผังสถานที่ประกอบอาชีพของผู้กู้
4.โครงการประกอบอาชีพของกลุ่ม
5.หนังสือสัญญาเช่าบ้าน (ในกรณีที่ผู้กู้เช่าบ้านอยู่)
6.สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ค้ำประกัน
7.หนังสือรับรองเงินเดือนของผู้ค้ำประกัน
8.หนังสือรับรองขององค์กรคนพิการหรือองค์กรเพื่อคนพิการ
9.หนังสือรับรองว่าเป็นผู้อุปการะคนพิการ(ในกรณีเป็นผู้ดูแลคนพิการ)
10.ใบรับรองแพทย์ (กรณีคนพิการมีสภาพความพิการรุนแรง และผู้ดูแลคนพิการเป็นผู้ขอกู้แทนคนพิการ)
11.รูปถ่ายเต็มตัวผู้กู้
12.สำเนาสมุดเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทยเท่านั้น
สถานที่ยื่นขอกู้ยืมเงินกองทุนฯ
ผู้ที่ประสงค์จะขอกู้ยืมเงินจะต้องไปติดต่อยื่นคำร้องด้วยตนเองที่จังหวัดที่ตนมีภูมิลำเนาอยู่ หรือจังหวัดที่ตนเองประกอบอาชีพอยู่ ดังนี้
กรุงเทพมหานคร
ยื่นคำร้องที่ ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนเขต 1-12
• ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนเขต 1
ที่ตั้ง 255 อาคารดรุณวิถี บ้านราชวิถี ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กทม. 10400
โทรศัพท์ 0 2306 8931 โทรสาร 0 2306 8931
• ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนเขต 2
ที่ตั้ง 2026/100 ถนนประชาสงเคราะห์ 37 เขตดินแดง กทม. 10400
โทรศัพท์ 0 2277 5032 โทรสาร 0 2277 5031
• ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนเขต 3
ที่ตั้ง 599 ชั้น 6 สำนักงานคลองเตย ถนนอาจณรงค์ เขตคลองเตย กทม. 10110
โทรศัพท์ 0 2249 1972-3 โทรสาร 0 2249 1972
• ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนเขต 4
ที่ตั้ง 722 ศูนย์ชุมชนบ้านเอื้ออาทรลาดกระบัง 1 ถนนหลวงเแท่ง เขตลาดกระบัง กทม. 10520
โทรศัพท์ 0 2364 8384-6 โทรสาร 0 2364 8384
• ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนเขต 5
ที่ตั้ง 2026/100 ถนนประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง กทม. 10400
โทรศัพท์ 0 2277 0641 โทรสาร 0 2277 2528
• ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนเขต 6
ที่ตั้ง 378 หมู่ 4 อาคารศูนย์ชุมชน บ้านเอื้ออาทรสายไหม ถนนสายไหม แขวงสายไหม เขตสายไหม กทม. 10220
โทรศัพท์ 0 2159 4334-6 โทรสาร 0 2159 4338
• ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนเขต 7
ที่ตั้ง 3/14 ซอยโยธินพัฒนา ถนนประดิษฐ์มนูธรรม เขตลาดพร้าว กทม. 10230
โทรศัพท์ 0 2538 1665 โทรสาร 0 2038 1665
• ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนเขต 8
ที่ตั้ง ชั้นล่าง แฟลต 6 เคหะชุมชนบางชัน ถนนเสรีไท แขวงบางชัน เขตมีนบุรี กทม. 10510
โทรศัพท์ 0 2540 7760 โทรสาร 0 2540 7722
• ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนเขต 9
อาคารโรงพิมพ์ ร.ส.พ. (เดิม) ถนนเพชรเกษม แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม. 10160
โทรศัพท์ 0 2472 4640-3 โทรสาร 0 2472 6442
• ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนเขต 10
อาคารโรงพิมพ์ ร.ส.พ. ถนนเพชรเกษม แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม. 10160
โทรศัพท์ 0 2472 4250-51 โทรสาร 0 2472 4249
• ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนเขต 11
ที่ตั้งศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค 813 ถนนเพชรเกษม ก.ม. ที่ 11 หมู่ 15 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. 10160
โทรศัพท์ 0 2413 3139 โทรสาร 0 2413 3139
• ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนเขต 12
ที่ตั้ง ติดกับโรงเรียนศึกษานารี 2 ถนนเอกชัย แขวงบางบอน เขตบางบอน กทม.
โทรศัพท์ 0 2450 3670-1 โทรสาร 0 2450 3970
ส่วนภูมิภาค
ยื่นคำร้องที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทุกจังหวัด
ที่มา : http://www.nep.go.th/index.php?mod=service_fund&group=2