วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2556

ความรู้เกี่ยวกับคนพิการ

 
       “คนพิการ” หมายความว่า บุคคลซึ่งมีข้อจำกัดในการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือเข้าไปมีส่วนร่วมทางสังคม เนื่องจากมีความบกพร่องทางการเห็น การได้ยิน การเคลื่อนไหว การสื่อสาร จิตใจ อารมณ์ พฤติกรรม สติปัญญา การเรียนรู้ หรือความบกพร่องอื่นใด ประกอบกับมีอุปสรรคในด้านต่างๆ และมีความจำเป็นเป็นพิเศษที่จะต้องได้รับความช่วยเหลือด้านหนึ่งด้านใด เพื่อให้สามารถปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือเข้าไปมีส่วนร่วมทางสังคมได้อย่างบุคคลทั่วไป ทั้งนี้ ตามประเภทและหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประกาศกำหนด
ประเภทและหลักเกณฑ์ความพิการ

       ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๒ เล่ม ๑๒๖ ตอนพิเศษ ๗๗ ง กำหนดประเภทความพิการไว้ ๖ ประเภท ตามหลักเกณฑ์ ดังนี้

๑. ความพิการทางการเห็น ได้แก่ 

           ๑) ตาบอด หมายถึง การที่บุคคลมีข้อจำกัดในการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือการเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม ซึ่งเป็นผลมาจากการมีความบกพร่องในการเห็น เมื่อตรวจวัดการเห็นของสายตาข้างที่ดีกว่าเมื่อใช้แว่นสายตาธรรมดาแล้ว อยู่ในระดับแย่กว่า ๓ ส่วน ๖๐ เมตร(๓/๖๐) หรือ ๒๐ ส่วน ๔๐๐ ฟุต (๒๐/๔๐๐) ลงมาจนกระทั่งมองไม่เห็นแม้แต่แสงสว่าง หรือมีลานสายตาแคบกว่า ๑๐ องศา
๒) ตาเห็นเลือนราง หมายถึง การที่บุคคลมีข้อจำกัดในการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือการเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม ซึ่งเป็นผลมาจากการมีความบกพร่องในการเห็นเมื่อตรวจวัดการเห็นของสายตาข้างที่ดีกว่า เมื่อใช้แว่นสายตาธรรมดาแล้ว อยู่ในระดับตั้งแต่ ๓ ส่วน ๖๐ เมตร (๓/๖๐) หรือ ๒๐ ส่วน ๔๐๐ ฟุต (๒๐/๔๐๐) ไปจนถึงแย่กว่า ๖ ส่วน ๑๘ เมตร (๖/๑๘)หรือ ๒๐ ส่วน ๗๐ ฟุต (๒๐/๗๐) หรือมีลานสายตาแคบกว่า ๓๐ องศา

๒. ความพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย ได้แก่

           ๑) หูหนวก หมายถึง การที่บุคคล การที่บุคคลมีข้อจำกัดในการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือการเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม ซึ่งเป็นผลมาจากการมีความบกพร่องในการได้ยินจนไม่สามารถรับข้อมูลผ่านทางการได้ยิน เมื่อตรวจการได้ยิน โดยใช้คลื่น ความถี่ที่ ๕๐๐ เฮิรตซ์ ๑,๐๐๐ เฮิรตซ์ และ ๒,๐๐๐ เฮิรตซ์ ในหูข้างที่ได้ยินดีกว่าจะสูญเสียการได้ยินที่ความดังของเสียง ๙๐ เดซิเบลขึ้นไป
๒) หูตึง หมายถึง การที่บุคคลมีข้อจำกัดในการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือการเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม ซึ่งเป็นผลมาจากการมีความบกพร่องในการได้ยิน เมื่อตรวจวัดการได้ยิน โดยใช้คลื่นความถี่ที่ ๕๐๐ เฮิรตซ์ ๑,๐๐๐ เฮิรตซ์ และ ๒,๐๐๐ เฮิรตซ์ ในหูข้างที่ได้ยินดีกว่าจะสูญเสียการได้ยินที่ความดังของเสียงน้อยกว่า ๙๐ เดซิเบลลงมาจนถึง ๔๐ เดซิเบล
๓) ความพิการทางการสื่อความหมาย หมายถึง การที่บุคคลมีข้อจำกัดในการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือการเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม ซึ่งเป็นผลมาจากการมีความบกพร่องทางการสื่อความหมาย เช่น พูดไม่ได้ พูดหรือฟังแล้วผู้อื่นไม่เข้าใจ เป็นต้น

๓. ความพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย ได้แก่

           ๑) ความพิการทางการเคลื่อนไหว หมายถึง การที่บุคคลมีข้อจำกัดในการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือการเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม ซึ่งเป็นผลมาจากการมีความบกพร่องหรือการสูญเสียความสามารถของอวัยวะในการเคลื่อนไหว ได้แก่ มือ เท้า แขน ขา อาจมาจากสาเหตุอัมพาต แขน ขา อ่อนแรง แขน ขาขาด หรือภาวะเจ็บป่วยเรื้อรังจนมีผลกระทบต่อการทำงานมือ เท้า แขน ขา
๒) ความพิการทางร่างกาย หมายถึง การที่บุคคลมีข้อจำกัดในการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือการเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม ซึ่งเป็นผลมาจากการมีความบกพร่องหรือความผิดปกติของศีรษะ ใบหน้า ลำตัว และภาพลักษณ์ภายนอกของร่างกายที่เห็นได้อย่างชัดเจน

๔. ความพิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม หรือออทิสติก ได้แก่

           ๑) ความพิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม หมายถึง การที่บุคคลมีข้อจำกัดในการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือการเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม ซึ่งเป็นผลมาจากความบกพร่องหรือความผิดปกติทางจิตใจหรือสมองในส่วนของการรับรู้ อารมณ์ หรือความคิด
๒) ความพิการทางออทิสติก หมายถึง การที่บุคคลมีข้อจำกัดในการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือการเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม ซึ่งเป็นผลมาจากความบกพร่องทางพัฒนาการด้านสังคม ภาษาและการสื่อความหมาย พฤติกรรมและอารมณ์ โดยมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของสมอง และความผิดปกตินั้นแสดงก่อนอายุ ๒ ปีครึ่ง ทั้งนี้ ให้รวมถึงการวินิจฉัยกลุ่มออทิสติกสเปกตรัมอื่น ๆ

๕. ความพิการทางสติปัญญา ได้แก่
 
          การที่บุคคลมีข้อจำกัดในการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือการเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม ซึ่งเป็นผลมาจากการมีพัฒนาการช้ากว่าปกติ หรือมีระดับเชาว์ปัญญาต่ำกว่าบุคคลทั่วไป โดยความผิดปกตินั้นแสดงก่อนอายุ ๑๘ ปี

๖. ความพิการทางการเรียนรู้ ได้แก่
 
       การที่บุคคลมีข้อจำกัดในการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวัน หรือการเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมโดยเฉพาะด้านการเรียนรู้ ซึ่งเป็นผลมาจากความบกพร่องทางสมอง ทำให้เกิดความบกพร่องในด้านการอ่านการเขียน การคิดคำนวณ หรือกระบวนการเรียนรู้พื้นฐานอื่นในระดับความสามารถที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานตามช่วงอายุและระดับสติปัญญา
 
 

วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556

รับสมัครผู้สนใจฝึกอบรมลูกเสือชาวบ้าน เขตบางเขน


 
 ประกาศ
รับสมัครผู้สนใจฝึกอบรมลูกเสือชาวบ้าน เขตบางเขน

                 นายกฤษณ์ เกียรติพนชาติ ผู้อำนวยการเขตบางเขน กทม. แจ้งเปิด รับสมัครผู้สนใจฝึกอบรมลูกเสือชาวบ้าน เขตบางเขน ณ ค่ายฝึกอบรมโรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ ถ.พหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.
                คุณสมบัติผู้เข้ารับการฝึกอบรม
                1.  เยาวชนและประชาชนทั่วไป อายุ 15 ปีขึ้นไป
                2. สัญชาติไทย
                3. จำนวน 120 คน
                4. สามารถเข้ารับการฝึกอบรม(แบบพักค้าง )ได้ระหว่างวันที่ 22 - 26 เมษายน 2556

              ในการฝึกอบรมจะก่อให้เกิดความสามัคคี ความช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน การพึ่งตนเองและเต็มใจช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อมีโอกาสการรู้วิธีการพัฒนาตนเองพัฒนาอาชีพ และพัฒนาถิ่นที่อยู่ รวมถึงการได้เพื่อนใหม่ๆที่เสริมสร้างความรัก ความสามัคคีปรองดอง
             โดยจะ มีพิธีเข้ารับผ้าผูกคอห่วงรัด และหน้าเสือ ซึ่งเป็นของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นความภาคภูมิใจกับผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมทุกคน ผู้สนใจติดต่อหรือขอรับใบสมัคร และยื่นใบสมัครได้  ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 17 เม.ย. 2556   ได้ที่ ฝ่ายปกครอง อาคาร 1 ชั้น 2 สำนักงานเขตบางเขน หรือโทร. 0 2521 0149  ต่อ 5856   และ 0 2972 9960
 
                               

วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แจ้งข่าวสาร การรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในปีงบประมาณ 2555




แจ้งข่าวสาร การรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในปีงบประมาณ 2555

            ตามที่ สำนักงานเขตบางเขน ได้รับนโยบายให้ดำเนินการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันใดในปีงบประมาณ 2555 ทางสำนักงานเขตบางเขนได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลของผู้สูงอายุชึ่งมีผู้มีสิทธิจำนวน 13,228 ราย ( มากเป็นอันดับ 2 ของกรุงเทพมหานคร ) จึงทำให้มีความล่าช้าในการโอนเงินเข้าบัญชีให้ผู้สูงอายุแต่ปัจจุบันนี้ได้มีการปรับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว หากผู้สูงอายุท่านใดที่ได้รับเงินไม่ตรงตามช่วงอายุให้มาติดต่อได้ที่ฝ่ายพัฒนาชุมชนฯ สำนักงานเขตบางเขน โทร.02-521-0666 ต่อ 5886 ภายในวันที่ 20 สิงหาคม 2555 โดยเตรียมหลักฐาน ดังนี้

            1.สำเนาบัตรประชาชนผู้สูงอายุ
            2.สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร


หมายเหตุ...

                 ช่วงอายุผู้สูงอายุแบบขั้นบันใด

1.อายุ 60-69 ปี      ได้รับเงิน 600 บาท (เกิดก่อน 1 ต.ค.2494-30 ก.ย.2484)
2.อายุ 70-79 ปี      ได้รับเงิน 700 บาท (เกิดก่อน 1 ต.ค.2484-30 ก.ย.2474)
3.อายุ 80-89 ปี      ได้รับเงิน 800 บาท (เกิดก่อน 1 ต.ค.2474-30 ก.ย.2464)
4.อายุ 90 ปีขื้นไป  ได้รับเงิน 1,000 บาท (เกิดก่อน 1 ต.ค.2464)





วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

10 เมืองยอดเยี่ยมที่สุดในโลก กรุงเทพครองแชมป์


               เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา นิตยสารทราเวล เลเชอร์ เปิดเผยอันดับเมืองยอดเยี่ยมที่สุดในโลกประจำปี 2012 ปรากฎว่า กรุงเทพมหานคร คว้าแชมป์เมืองยอดเยี่ยมที่สุดในโลกมาได้อีกครั้ง กลายเป็นแชมป์ 3 สมัยซ้อน

          โดยนิตยสารทราเวล เลเชอร์ ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้อ่านตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ถึงเดือนมีนาคมปีนี้ เพื่อเก็บข้อมูลจากผู้อ่านว่า พวกเขามีความประทับใจและชื่นชอบเมืองใดมากที่สุด ก่อนจะนำผลการสำรวจความเห็นมาประเมินเป็นคะแนน และผลปรากฎออกมาว่า กรุงเทพมหานคร ครองแชมป์เมืองยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ด้วยคะแนน 89.87 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน ขณะที่ทั้ง 10 อันดับเมืองยอดเยี่ยมที่สุดในโลกประจำปีนี้ ได้แก่เมืองต่อไปนี้

  1. กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย  (89.87 คะแนน)  

 2. เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี (89.14 คะแนน)

 3. เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี (89.11 คะแนน)     

  4. เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ (88.64 คะแนน)

 5. เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย (88.52 คะแนน)

  6. กรุงโรม ประเทศอิตาลี (88.49 คะแนน)

7. เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา (88.12 คะแนน)


  8. เกาะฮ่องกง ประเทศจีน (88.03 คะแนน)






  9. เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น (87.90 คะแนน)

  10. กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส (87.67 คะแนน)    


ที่มา     :   http://www.kapook.com/


วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555

แจ้งข่าวตกเบิกเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

       

          สำนักงานเขตบางเขน ได้จ่ายเงินตกเบิกเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแล้ว( เดือนตุลาคม 2554 - เดือนมีนาคม 2555) คาดว่าวันจันทร์ที่ 10 เมษายน 2555 ผู้สูงอายุธนาคารอื่นๆ (ยกเว้นธนาคารกรุงไทย) จะได้รับเบี้ยยังชีพฯ เรียบร้อยแล้ว ขอให้ท่านตรวจสอบจำนวนเงินที่ท่านได้รับว่าถูกต้องหรือไม่ ดังนี้

              อายุ 60 - 69 ปี    ได้รับเงินเบี้ยยังชีพฯเดือนละ   600 บาท  ได้รับเงินตกเบิก       600   บาท 
              อายุ 70 - 79 ปี    ได้รับเงินเบี้ยยังชีพฯเดือนละ   700 บาท  ได้รับเงินตกเบิก    1,200  บาท
              อายุ 80 - 89 ปี    ได้รับเงินเบี้ยยังชีพฯเดือนละ   800 บาท  ได้รับเงินตกเบิก    1,800  บาท
              อายุ 90 ปี ขึ้นไป  ได้รับเงินเบี้ยยังชีพฯเดือนละ 1,000 บาท  ได้รับเงินตกเบิก   3,000  บาท

          ทั้งนี้  คิดคำนวณอายุตามปีงบประมาณ คำนวณถึงวันที่ 30 กันยายน 2554  หากท่านใดได้รับเงินไม่ครบตามจำนวน หรือยังไม่ได้รับเงิน ให้นำบัตรประชาชน และสมุดบัญชีที่ได้รับการปรับปรุงรายการแล้วจากธนาคาร มาติดต่อที่ฝ่ายพัฒนาชุมชนฯ สำนักงานเขตบางเขน เพื่อดำเนินการปรับรายการให้ต่อไป


วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ยุงร้ายกวนใจ...กำจัดยังไงดี

ไข้เลือดออก

          ในสภาวะที่มีน้ำท่วมขัง แถมบางจุดยังเป็นน้ำเน่าเสีย ไม่น่าแปลกที่ "ยุง" จะเป็นอีกหนึ่งปัญหารบกวนเรา จริง ๆ รบกวนน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่หาก "ยุง" มาพร้อมกับโรคร้าย โดยเฉพาะไข้เลือดออกแล้วล่ะใครติดเชื้อเขาไปก็มีโอกาสถึงแก่ชีวิตได้เลยทีเดียว วันนี้กระปุกดอทคอม จึงนำวิธีกำจัดยุงมาฝากเพื่อน ๆ กันโดยเฉพาะ
          สำหรับวิธีกำจัดยุงมีหลากหลายรูปแบบ และหลากหลายวิธี นอกจากการใช้ไม้ช็อตไฟฟ้า หรือฉีดพ่นสารเคมีแล้ว ยังมีวิธีดี ๆ ที่เรามาแนะนำต่อไปนี้

วิธีกำจัดลูกน้ำยุง

เลี้ยงปลาไว้กินลูกน้ำ
          ปลาที่นิยมเลี้ยงกันไว้กินลูกน้ำก็คือ ปลาหางนกยูง ปลาสอด ปลากัด โดยมักจะเลี้ยงปลาเหล่านี้ไว้ในโอ่ง หรือบ่อซีเมนต์ ไว้สำหรับกินลูกน้ำในน้ำ ซึ่งจะช่วยควบคุมยุงลายได้ทางหนึ่ง โดยให้ใส่ปลาหางนกยูง 2-10 ตัวต่อภาชนะ แต่หากกลัวว่าปลาจะยิ่งเพาะพันธุ์มากขึ้น ก็ให้เลือกเลี้ยงเฉพาะปลาหางนกยูงตัวผู้ก็ได้


ใช้แบคทีเรียกำจัดลูกน้ำ
          แบคทีเรียพวกนี้จะเป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในดินตามธรรมชาติ จึงไม่เป็นพิษต่อคนและสัตว์ โดยหาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด ซึ่งจะมีชื่อเรียกทางการค้าแตกต่างกันไป เช่น Bactimos, Teknar, VectoBac, Larvitab ฯลฯ และมีหลายสูตรให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับชนิดของแหล่งน้ำ และชนิดของลูกน้ำยุง

          นอกจากนี้ น้ำอีเอ็มที่ใช้แก้น้ำเสียก็สามารถกำจัดลูกน้ำยุงลายได้เช่นกัน เพราะอีเอ็มมีประสิทธิภาพในการปรับสภาพน้ำ ลดความเป็นกรด - ด่างในน้ำ ทำให้ลูกน้ำยุงลายไม่สามารถอยู่ได้ แต่ต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม


ใช้ทรายอะเบทกำจัดยุงลาย
          บางคนเรียกทรายอะเบท ว่า ทรายกำจัดลูกน้ำยุงลาย หรือ ทรายเคมีฟอส วิธีการใช้ก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่นำทรายอะเบท 1 กรัม ใส่ในน้ำ 10 ลิตร (อัตราส่วน 1 กรัมต่อน้ำ 10 ลิตร หรือ 20 กรัม) ก็จะช่วยกำจัดลูกน้ำอย่างได้ผล โดยจะป้องกันไม่ให้เกิดลูกน้ำได้นานประมาณ 1-2 เดือนเลยทีเดียว


ใช้วิธีกาลักน้ำ
          หากโอ่ง กระป๋อง ถัง หรือบ่อซีเมนต์อะไรก็ตามในบ้านของคุณมีลูกน้ำว่ายไปว่ายมาอยู่ กลัวจะกำจัดไม่หมด ลองใช้วิธีนี้ดูนี้ เริ่มจากเตรียมสายยางยาวประมาณ 2 เท่า ของความสูงภาชนะ และเติมน้ำให้เต็มตลอดสายยางไว้ จากนั้นใช้มือหมุนกวนภาชนะประมาณ 2-3 รอบ เพื่อให้ตะกอนสกปรก รวมทั้งลูกน้ำที่กระจัดกระจายอยู่ในภาชนะจะถูกแรงหมุนเหวี่ยงของน้ำ กวาดไล่มารวมอยู่ที่กึ่งกลางของพื้นภาชนะ จากนั้นจึงใช้สายยางที่เตรียมไว้ดูดเอาลูกน้ำ ตัวโม่ง และตะกอนกำจัดทิ้งไปพร้อม ๆ กันซะ ทีนี้ภาชนะของคุณก็จะสะอาดและปลอดลูกน้ำยุงลายแน่นอน

ยุงลาย



          นอกจากวิธีการกำจัดลูกน้ำของยุงแล้ว ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ก็ยังได้แนะนำวิธีง่าย ๆ ที่ประหยัดและปลอดภัยด้วยการใช้ "สารลดแรงตึงผิว" เป็นตัวช่วยกำจัดตัวยุงได้ด้วย โดยสารลดแรงตึงผิวนี้จะทำให้เยื่อบุรูหายใจ (spiracle) ของแมลงสูญเสียสภาพการควบคุมความสมดุลของน้ำภายในตัวแมลง (dehydration) และทำให้แมลงตายในที่สุด

          อ๊ะ ๆ อย่าเพิ่งทำหน้างงว่าจะไปหาสารลดแรงตึงผิวได้ที่ไหน เพราะความจริงสารลดตึงผิวมีใช้กันอยู่ทุกบ้านแน่นอน ก็อย่างเช่น ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน สบู่เหลว นั่นไงล่ะ เอาล่ะ...ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้มากกว่านี้ ไปดูวิธีการกันเลยจ้า
วิธีกำจัดยุง

ใช้ผงซักฟอก

          ให้นำผงซักฟอกโรยลงในภาชนะ หรือวัสดุที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เช่น จานรองกระถางต้นไม้ ยางรถยนต์ ฯลฯ ทีนี้ผงซักฟอกจะกระจายปกคลุมทั่วผิวน้ำ เมื่อลูกน้ำ หรือตัวโม่งของยุงลายจะขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำ มันก็จะดูดซับเอาสารเข้าไปในระบบหายใจด้วย ทำให้เกิดความระคายเคืองต่อระบบหายใจจนตายในที่สุด

ใช้น้ำยาล้างจานโฉบจับยุง

          วิธีนี้ทำไม่ยาก (อาจต้องใช้วิทยายุทธ์สักเล็กน้อย อิอิ) โดยให้บีบน้ำยาล้างจานทาให้ทั่วพื้นจานพลาสติกขนาดพอเหมาะ ทีนี้พอยุงบินมาใกล้ ๆ ก็ใช้จานตะปบซะ เทคนิคเดียวกับการใช้ไม้ช็อตยุงนั่นเอง แต่วิธีนี้ยุงลายจะถูกจับตายอยู่ที่พื้นจานเป็นหลักฐานให้เราเห็นเต็มตา

ใช้น้ำยาล้างจาน/แชมพู/สบู่เหลวฉีดพ่นยุง

          หากคุ้นเคยกับวิธีฉีดพ่นยา ลองใช้วิธีนี้ นำน้ำยาล้างจาน หรือแชมพู หรือสบู่เหลว 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 1 ลิตร ตวงใส่กระบอกฉีดพรมผ้า นำไปฉีดกลุ่มยุงลายที่เกาะอยู่ตามบริเวณต่าง ๆ ตามมุมบ้าน ผนังห้องน้ำ หรือในภาชนะที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย จะสามารถกำจัดยุงลายในบ้านได้อย่างดีทีเดียว

          นอกจากนั้นแล้ว หากต้องกำลังยุงที่แฝงตัวอยู่ในกองผ้า ผ้าม่าน ที่นอน หมอน มุ้ง อะไรก็ตาม ให้เจือจางน้ำยาล้างจานกับน้ำเปล่าในอัตราส่วนผสม น้ำยาล้างจาน 1 ส่วน ผสมกับน้ำ 4 ส่วน แล้วนำไปฉีดพ่นต่อเนื่องไปที่กลุ่มยุงที่พบเห็นเกาะเป็นกลุ่มตามบริเวณต่าง ๆ ดังกล่าว ก็จะสามารถกำจัดยุงได้เช่นกันจ้ะ

กำจัดยุง


          แต่สำหรับบ้านไหนที่ไม่ว่าจะลองวิธีไหนแล้ว ก็ยังกำจัดยุงก็ไม่หมดสักที ลองมาป้องกันตัวเองจากยุงด้วยสมุนไพร 4 ชนิดที่เรานำมาแนะนำกันดีกว่า นั่นก็คือ

ตะไคร้   
          สังเกตุไหมว่าสมุนไพรไล่ยุงที่มักวางขายกันทั่วไปจะมีตะไคร้เป็นส่วนผสมอยู่ ด้วย เพราะตะไคร้เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่ยุงขยาดกลิ่นมากที่สุด และหากบ้านเรามีตะไคร้ก็นำตะไคร้มาตำให้แหลก ผสมกับน้ำเล็กน้อย แล้วคั้นเอาแต่น้ำ ก่อนไปเคี่ยวเป็นน้ำมัน ทีนี้ก็จะได้ตะไคร้ทาผิวที่ยุงเกลียดสุด ๆ แล้วล่ะ
กระเทียม 
          ตำกระเทียมให้พอบุบ ผสมกับน้ำแล้วทาลงบนจุดชีพจรต่าง ๆ ในร่างกายและบนใบหน้าจะช่วยให้ยุงไม่เข้าใกล้อีก แต่ระวังอย่าให้เข้าตาเด็ดขาด

วานิลา  

         ผสมผงวานิลากับน้ำเล็กน้อย แล้วทาลงบริเวณจุดชีพจรบนผิวหนัง หรือจะแต้มลงบนเสื้อผ้าก็จะช่วยให้ยุงขยาด ไม่กล้าเข้ามาใกล้ตัวเราได้

น้ำมันมะกอก 

         นำน้ำมันหอมระเหยที่มีกลิ่นลาเวนเดอร์ ยูคาลิปตัส มะนาว ตะไคร้ ทีทรีไธม์ และ เปปเปอร์มินต์ หยดลงในน้ำมันมะกอก 2-3 หยด แล้วทาลงบนผิวจะช่วยให้ยุงไม่เข้าใกล้


       
   ว้าว...มีหลากวิธีให้เลือกสรรกันขนาดนี้ ยุงร้ายกวนใจก็คงไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปแล้วใช่ไหมจ๊ะ
 
ที่มาhttp://hilight.kapook.com/view/64867